Ficool

Chapter 6 - 6

6 พันโทวรุฒม์ แสนยานุภาพ จอดรถหน้าบ้านไม้หลังเล็กยกพื้นสูงที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่น บ้านเงียบสนิทไร้เงาของชายหนุ่มผู้ร่าเริงทั้งสองคน

 นายทหารหนุ่มยอมรับว่าภีรวัสกับอิศราเป็นสีสันให้กับชีวิตเงียบๆ ของเขาในตำบลเล็กๆ ห่างไกลความเจริญแห่งนี้ หลายเดือนที่มาทำงานในแถบภาคเหนือตอนบน เขาเริ่มจะรู้สึกเบื่อ งานที่ทำใกล้จะเสร็จแล้วแต่ก็ยังไปไหนไม่ได้ ต้องรอให้คนใหม่มารับช่วงต่อ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน พันตรีหม่อมหลวงพล อัครเดชา ผู้เป็นทั้งเพื่อนและญาติทางฝ่ายมารดา

 วรุฒม์ชะเง้อมองบนบ้านแล้วเดินอ้อมไปด้านข้าง ลัดเลาะตามแนวพุ่มไม้ไปหยุดยืนอยู่ลานลานหญ้ากว้างห่างจากตัวบ้านพอประมาณ มองดูอุปกรณ์แปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนวางอยู่บนโต๊ะปีกไม้ตัวใหญ่ใต้ร่มไม้ครึ้ม ความจริงเขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องงานวิจัยที่ภีรวัสทำเท่าใดนัก อิศรานั้นเป็นช่างภาพ แต่มาช่วยภีรวัสทำงาน ทั้งสองดูสนิทกันแต่ก็ดูขวางๆ กันอยู่ในที เข้าทำนองเพื่อนรักเพื่อนคู่กัด

 ...น่ารักทั้งสองคน แต่ถ้าให้เลือก เขาก็พอจะมีใจให้คนหนึ่งมากกว่าอีกคน...

 ...แต่มีอะไรบางอย่างที่วรุฒม์รู้สึกแปลกๆ เขายังบอกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ เขาคิดว่าสองหนุ่มไม่ได้แสดงท่าทีสนใจเขาแบบธรรมดาๆ อย่างที่คนอื่นๆ แสดงความสนใจเขา...

 "อิศราไปซื้อของยังไม่กลับครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง วรุฒม์หันไปตามเสียงนุ่มของภีรวัสจึงเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงยีนส์พอดีตัวสีซีด มีรอยปะอยู่สามสี่จุด

 ภีรวัสมีมัดกล้ามพองาม ตอนแรกเขานึกว่ารูปร่างผอมเพรียวเพราะเห็นแต่สวมเสื้อผ้าตัวโคร่ง แต่ครั้นเห็นตอนนี้จึงรู้ว่าชายหนุ่มซ่อนรูปไม่เบา

 ...ผิวขาวสะอาด เนียน น่าลูบไล้...

 ...รอยยิ้มนั้นดูลึกลับ ราวกับซ่อนความในใจบางอย่างเอาไว้ อะไรที่เจ้าตัวไม่อยากให้เขารู้ หรือไม่อยากให้รู้ในตอนนี้…

 "คุณภีรวัสกำลังทดลองอะไรหรือครับ นี่คงเป็นส่วนหนึ่งในงายวิจัย" วรุตม์ถาม

 "เอ่อ...อธิบายยังไงดี" ภีรวัสเอียงหน้า พยายามเรียบเรียงคำพูด

 "ยังไม่ต้องอธิบายก็ได้ครับ เรายังมีเวลาจะทำความรู้จักและคุยกันอีกนาน" วรุฒม์พูดยิ้มๆ "ถ้าคุณภีรวัสยังไม่รีบกลับกรุงเทพฯ เสียก่อน"

 “ก็คงหนึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย สามเดือนเป็นอย่างมากครับ” ภีรวัสตอบแล้วเดินเข้ามาใกล้นายทหาร ยิ้มให้บางๆ แล้วก้มลงหยิบท่อสเตนเลสยาวขนาดหนึ่งฟุตจำนวนสามท่อมาเสียบต่อกัน บิดเกลียวแล้วล๊อคให้แน่น วรุฒม์ยืนมองเงียบๆ สลับกับการมองหัวไหล่และต้นคอของชายหนุ่ม

 “ไม่หนาวหรือครับ” วรุฒม์เอ่ยขึ้นมาเบาๆ

 ภีรวัสส่ายหน้า สายตายังจับอยู่ที่อุปกรณ์ทดลองในมือ แล้วอธิบายว่า

 “นี่คือตัววัดความสั่นสะเทือนของเปลือกโลก ต่อสายเข้ากับเครื่องนั้น” ภีรวัสชี้มือไปยังกล่องอลูมีเนียมที่วางอยู่บนโต๊ะ “แล้วก็นั่งคอยเป็นชั่วโมงๆ เพื่อสังเกตเข็มกระดิกไปกระดิกมา”

 ภีรวัสประกอบอุปกรณ์ชิ้นใหญ่เสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้วรุฒม์ จากนั้นจึงประกอบอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ วรุฒม์เดินเข้ามาใกล้แล้วชะโงกหน้ามองสิ่งที่นักวิจัยหนุ่มกำลังทำอย่างสนใจ จึงไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งยืนมองอยู่อย่างไม่สบอารมณ์

 

 อิศรารู้สึกอิจฉาภีรวัส ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าวรุฒม์แอบชำเลืองมองภีรวัสอยู่บ่อยๆ เขายอมรับในใจว่าเพื่อนของเขามีเสน่ห์กว่า ภีรวัสดูมี ‘มิติ’ มากกว่าเขา มีอะไรน่าค้นหา ในขณะที่เขาดู ‘แบนๆ’ ไม่มีเหลี่ยมมุมอะไรให้ตื่นเต้น อิศราแย้งตัวเองอยู่เสมอว่าเพราะเขาเป็นคนสนุกสนานร่าเริง ตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูดและแสดงออกไปแบบนั้น จึงกลายเป็นว่าเปิดเผยมากเกินไป ไม่เหลืออะไรให้ค้นหาเหมือนภีรวัสที่ดูลึกลับกว่า

 ...แต่เกมนี้เขาไม่ยอมแพ้ จะว่าไป หากนับสถิติกันจริงๆ เขามีคะแนนรวมชนะภีรวัสด้วยซ้ำ แต่เกมนี้คือจุดสุดยอด เหมือนแข่งโอเลมปิกส์ ไม่ใช่กีฬาแห่งชาติเหมือนที่ผ่านมา...

 “ทำอะไรกันอยู่ครับ” อิศราทำลายความเงียบ พันโทวรุฒม์เงยหน้าขึ้นและหันมายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มที่อิศราคิดว่าสามารถทำให้ทั้งกายและใจของเขาละลายได้ไม่ยาก

 “หายไปไหนอิศ” ภีรวัสถามโดยไม่เงยหน้า ผู้พันมารอตั้งนานแล้ว”

 “ไปถ่ายรูป” อิสราตอบสั้นๆ

 “ไปกันหรือยังครับ” วรุฒม์ถามอิศราแล้วหันมาชวนภีรวัส “คุณภีรวัสไปด้วยกันไหมครับ ขากลับผมจะพาไปทานอาหารที่ร้านริมแม่น้ำ บรรยากาศสวยมาก อาหารก็อร่อย”

 “เชิญตามสบายครับ ผมขอทำนี่ให้เสร็จ คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร” ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมายิ้มบางๆ ให้วรุฒม์แล้วหันไปหาเพื่อนซี้แล้วส่งสายตาบ่งบอกความหมายว่า ‘เห็นไหมล่ะ วันนี้เรายอมให้เฉยๆ หรอก’

 อิศราพยักหน้าแล้วชวนวรุฒม์เดินไปที่รถ ก่อนจะหันมาถามเพื่อนอย่างห่วงใยว่า“จะเอาอะไรหรือเปล่าภีร์ เราจะซื้อของมาฝากนะ จะรีบกลับ กลัวภีร์หิว”

 ...ไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นห่วงใยหรอกอิศรา ร้อยวันพันปีเคยซื้อของกินมาฝากที่ไหน มีแต่จะให้เตียมอาหารไว้รอละสิ นี่สงสัยกะทำคะแนน แสดงให้หนุ่มเห็นว่าเป็นคนห่วงใยเพื่อน...

 “ขอบใจนะอิศ แต่ไม่ต้องหรอก เราทำอาหารเองก็ได้ จะทำอะไรอร่อยๆ ไว้รอนะ เผื่ออิศจะหิวตอนดึกๆ”

 ...เจอภีรวัสซะบ้างเถอะอิศรา ผู้พันวรุฒม์จะต้องทึ่งในตัวเราแน่...

 “แค่ได้ยินก็อยากทานแล้ว” อิศราหัวเราะเบาๆ แต่นัยน์ตาลุกวาบ ในใจด่าเพื่อนว่า

 ...แกทำอาหารเป็นที่ไหน พูดออกมาได้ จะทำอะไรอร่อยๆ ไว้คอย เจียวไข่ก็ยังไหม้ ทำอะไรก็กินไม่ลง หนอยแน่ะ นี่คงคิดจะทำคะแนนกับวรุฒม์ละสิ คอยดูนะ กลับมาจะโวยวายให้ลั่นบ้าน...

More Chapters