หนูนารับข้อเสนอจากทีมซีรีส์เพื่อเป็นที่ปรึกษาบท และพบว่า "บทของดาว" ที่เขียนขึ้นจากเธอ...กำลังจะเปลี่ยนชีวิตผู้หญิงหลายคนที่เธอไม่เคยรู้จัก
[INT. ห้องเขียนบท – ค่ายละคร]
โต๊ะไม้ยาวหน้ากระดานไวต์บอร์ดวางทิ้งไว้ด้วยแผนผังเนื้อเรื่องของละครเรื่อง "แสงสุดท้าย"
ดาวนั่งอยู่กลางห้อง สายตาเธอแน่นิ่งอยู่ที่ฉากจบที่เพิ่งร่างขึ้นเมื่อคืน
> ตัวละครหญิงสาวคนหนึ่ง
รับเด็กที่ไม่ใช่ลูกของตัวเองมาเลี้ยง
ทำงานหนัก ดูแลแม่ป่วย
และยิ้มในวันที่ทุกคนจากไป เหลือตัวคนเดียว
ทีมเขียนบทเงียบกันไปครู่ใหญ่
"ใครเป็นแรงบันดาลใจของบทแม่คะ?"
โปรดิวเซอร์สาวถามขึ้นเบา ๆ ขณะเปิดไฟล์บท
ดาวยิ้มจาง ๆ
เสียงเธอมั่นคงอย่างน่าแปลกใจ
> "แม่ค่ะ… แม่ของฉันจริง ๆ"
"เธอไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น แต่ร้องให้พระทุกคืนก่อนนอน"
"ไม่เคยตีเราเลย แต่โกรธตัวเองทุกครั้งที่ไม่มีอะไรให้ลูกมากพอ"
ทุกคนเงียบ
เหมือนลมหายใจในห้องกลายเป็นของแม่เธอชั่วขณะ
[EXT. หน้าโรงพยาบาล – เย็นวันเดียวกัน]
ตะวันกับแทนใจเดินออกจากตึกอายุรกรรม
วันนี้พวกเขาเพิ่งถ่ายทำ "ฉากย้อนอดีต" ของตัวละครแม่ในวัยสาว
แทนใจหันไปมองพี่ชาย — ตะวันนั่งนิ่งอยู่ใต้ต้นปีบ
ในมือยังถือบทละครแน่นอยู่
"พี่อินเหรอ?" แทนใจถาม
ตะวันพยักหน้าช้า ๆ
> "พี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแม่เราผ่านอะไรบ้าง…" "แต่ทุกครั้งที่เรากลับบ้าน แม่ยังยิ้มให้เราอยู่ดี"
แทนใจเงียบ
เขาเข้าใจดี
บางแผล…ไม่เคยร้อง แต่ไม่เคยหาย
[INT. ห้องพักนักแสดง – เบื้องหลังฉากซ้อม]
ฉากที่พวกเขาต้องเล่นคืนนี้ คือ
> "ลูกชายเจอจดหมายของแม่ที่ไม่เคยเปิด"
และเลือกจะ 'ให้อภัยพ่อ' โดยไม่ใช่เพราะพ่อขอโทษ
แต่เพราะอยากให้แม่ได้วางภาระจากหัวใจ
แทนใจนั่งอ่านบทเงียบ ๆ สักพัก
ก่อนจะพูดเบา ๆ
> "ฉากนี้จริงมากเลยว่ะพี่"
"เพราะผมให้อภัยพ่อเรามานานแล้ว…แค่ไม่ได้พูดออกมา"
ตะวันนิ่ง
> "พี่ก็เหมือนกัน"
[INT. บ้านไม้ – ดึกคืนนั้น – บ้านหนูนา]
หนูนาเปิดโทรทัศน์ดูข่าวตามปกติ
แต่ข่าวหนึ่งทำให้เธอชะงัก
> "ละครเรื่องใหม่ 'แสงสุดท้าย' ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของหญิงสาวที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา…"
กล้องแพนภาพมายังเบื้องหลังการถ่ายทำ
เห็นดาวยืนข้างผู้กำกับ
เห็นตะวันกับแทนใจในเครื่องแบบนักแสดง
หนูนานั่งลง
มือสั่นเล็กน้อย
เธอไม่ได้รู้สึกภูมิใจ
ไม่ได้รู้สึกเสียหน้า
แต่รู้สึกว่า…ลูกของเธอ "เข้าใจแล้ว"
> "ในที่สุด...เธอไม่ได้เล่าเรื่องเพราะอยากให้ใครรู้"
"แต่เพราะอยากปล่อยเรื่องที่เธอแบกไว้มาทั้งชีวิตลงเสียที"
[EXT. วัดทางเหนือ – ศิลา – บรรยากาศเงียบเย็น]
ศิลาเดินออกมาจากศาลาวัดที่มีแสงจันทร์สาดลงตรงบันไดหิน
ในมือถือ "ผ้าไตร" และสมุดเล่มหนึ่ง
พระอาจารย์ยื่นโทรศัพท์ให้เขา
"มีคนฝากคลิปมาให้โยมดู"
เขากดเปิด
> เป็นฉากหนึ่งจากละครที่ดาวโพสต์ลงโปรโมต
ฉากที่พ่อเดินออกจากบ้านในวันฝนตก
แล้วลูกชายสองคนวิ่งตามออกไป แต่ไม่ทัน
"แม่ยังยืนอยู่คนเดียวกลางสายฝน"
"และพูดว่า — 'ไม่เป็นไร แม่ไม่เป็นไร'"
ศิลานิ่ง
น้ำตาเขาร่วงโดยไม่รู้ตัว
> "แม่ในละคร…คือหนูนา"
"ลูกในละคร…คือพวกเขา"
"และพ่อ…คือเขาเอง"
[INT. ห้องเขียนบท – วันถัดมา]
ดาววางบทละครไว้บนโต๊ะผู้กำกับ
ข้างในเป็นบทตอนพิเศษที่ไม่มีใครสั่งให้เขียน
ชื่อบทคือ:
> "ชาตินี้…ไม่ขอซ้ำรอย"
ผู้กำกับเปิดอ่านพลางขมวดคิ้ว
"เธอจะให้พ่อกลับมาเหรอ?"
ดาวยิ้ม
น้ำตาเอ่อล้นขอบตานิด ๆ
> "ไม่ใช่กลับมาเพื่อขอให้อภัยค่ะ"
"แต่กลับมาเพื่อให้อยู่เฉย ๆ แล้วฟัง"
"เพราะผู้หญิงบางคน ไม่อยากได้คำขอโทษ—แค่ขอให้เขาฟังครั้งสุดท้ายก่อนเธอจะปล่อยวาง"