Ficool

Chapter 3 - Ep .3การพบ ภูวดลในฐานะลูกค้า

หนูนาหยุดยืนหน้าตึกกระจกสูงระฟ้า สูดลมหายใจลึก ร่างเล็กในเชิ้ตขาว กางเกงยีนส์เข้ารูป รองเท้าผ้าใบที่เธอเลือกมาเพื่อให้คล่องตัว — แต่หัวใจยังเต้นแรงเหมือนกลองรบ

เธอปรับเป้หลังบนไหล่ แน่นเหมือนกำลังโอบสิ่งสำคัญสุดในชีวิต: ต้นฉบับที่เธอทุ่มทั้งหัวใจเขียนมันขึ้นมา

"หนูนา... สู้เข้าไว้"

เสียงกระซิบให้กำลังใจตัวเองแผ่วเบา ก่อนจะก้าวเข้าไปในอาคาร

เสียง "ติ๊ง" ของลิฟต์ทำให้เธอสะดุ้ง ลิฟต์เลื่อนขึ้นช้าๆ ทีละชั้น เหมือนนับถอยหลังไปสู่ดินแดนที่ตัดสินอนาคตของเธอ

ห้องประชุมใหญ่เงียบกริบ

เสียงเคาะประตูสามครั้งดังขึ้น

"ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก..."

พีร์ ภูวดล ธนภัทรไพบูลย์ ประธานบริษัทหนุ่ม เจ้าของรอยยิ้มสุขุมลุกขึ้นจากเก้าอี้

"เดี๋ยวผมเปิดเองครับ"

เขาเดินไปเปิดประตู หน้าตาเรียบเฉยแต่แววตาจับจ้องเหมือนอ่านใจคน

บานประตูไม้เปิดออกอย่างเชื่องช้า หนูนายืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าเครียดจัดแต่พยายามควบคุมไว้

"ขอโทษที่มาช้าค่ะ"

เธอก้มหัวน้อยๆ เดินตรงไปหาป้าลำดวนที่ยืนยิ้มละมุนแต่สีหน้าดูเป็นห่วง

"มานั่งก่อนลูก"

"ขอบคุณค่ะ"

เธอทรุดตัวลงที่เก้าอี้ข้างๆ หัวใจยังเต้นแรง

พีร์นั่งลง ฝ่ายตรงข้ามตรงๆ สายตาจับจ้อง

"เริ่มกันเลยนะครับ"

น้ำเสียงสุขุมแต่ชัดเจน

"ตามที่คุยกับประธานคชา ผมจะเป็นสปอนเซอร์โปรเจกต์ดัดแปลงนิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ — แต่มีเงื่อนไขเดียว"

เขาชี้นิ้วตรงมาที่หนูนา

"นักเขียนต้นฉบับต้องลงภาคสนามกับทีมงานทุกขั้นตอน และรายงานตรงถึงผมทุกระยะ"

หนูนากะพริบตาถี่ๆ มือเย็นเฉียบ

ป้าลำดวนรีบหันมาแตะไหล่เธอเบาๆ

"เป็นไหวมั้ยลูก ไม่มีอะไรขัดข้องใช่มั้ย?"

เธอกลืนน้ำลาย หัวใจเต้นจนปวดหน้าอก

"ไหวค่ะป้า หนูจะรับผิดชอบเต็มที่ค่ะ"

แต่ในใจกลับสั่น — ทำไมลมหายใจมันติดขัดแบบป้าลำดวนยิ้มกว้างแต่แฝงความเครียด

"ดีมากลูก งานนี้ป้าฝากอนาคตบริษัท และพนักงานทุกคนไว้กับหนูนะ"

คำพูดนั้นเหมือนน้ำหนักมหาศาลกดทับบ่า

หนูนาก้มหน้าตอบเสียงแผ่ว

"ค่ะป้า"

พีร์มองเอกสารบนโต๊ะ ก่อนลุกขึ้นอย่างเฉียบขาด

"ผมขอตัวก่อน... อ้อ เกือบลืม"

เขาหยิบแฟ้มหนาแล้วยื่นให้หนูนา

"คู่มือระเบียบบริษัทฉบับใหม่ — วันนี้คุณหมดสัญญาจ้างแล้ว ไม่ใช่หรือครับ?"

หนูนาตาเบิกกว้าง มือสั่น

"ขะ...ขอโทษค่ะ หนูลืมไปสนิทเลย!"

พีร์เลิกคิ้ว

"เพิ่งสามสิบเองนะครับ"

เขาพูดยิ้มๆ แต่สายตากลับนิ่งลึก

"คุณลำดวน ช่วยดูแลน้องหน่อย ส่วนตำแหน่งผู้จัดการใหม่...?"

"ยังไม่ได้หาค่ะท่าน! ดิฉันจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด"

พีร์หันกลับมามองหนูนาอีกครั้ง สายตาแทงทะลุ

"อ่านคร่าวๆ แล้วเป็นยังไงบ้าง?"

หนูนาหายใจขัด มือกำปากกาแน่น ยังไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ!

"หนูเซ็นเลยได้มั้ยคะ?"

เธอรีบขีดลายเซ็น ส่งคืนให้ป้าลำดวน มือเย็นเฉียบ

โถงทางเดินนอกห้องประชุม

เมื่อบานประตูปิดลง ป้าลำดวนคว้าแขนเธอไว้แน่น

"ป้าขอถามอะไรหน่อยนะลูก..."

เสียงแผ่วแต่หนักแน่น

"พนักงานคนอื่นหมดสัญญาแล้วเขาก็ไป แต่หนูยังอยู่ ทุ่มเททุกอย่าง — เหมือนมีอะไรผูกมัด... ทำไมหนูถึงไม่ไป?"

หนูนาหยุดนิ่ง นิ้วกำเป้จนขาว

เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนพูดเสียงสั่น

"หนู... หนูไม่กล้าทรยศป้ากับท่านประธานค่ะ"

น้ำตาเริ่มคลอ

"ถ้าไม่ได้โอกาสจากการประกวดเมื่อปี 43... เด็กดอยอย่างหนูคงไม่มีวันเป็น 'หนูนา ปานตะวัน'..."

เสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน

"...หนูแค่อยากตอบแทนบุญคุณ ขอบคุณที่ให้หนูมีอุ่นน้ำอุ่นข้าวจนถึงวันนี้"

มุมมองป้าลำดวน

เธอมองตามหลังร่างเล็กที่เดินจากไป เห็นหลังค่อมเล็กน้อยเหมือนคนแบกโลกทั้งใบ

เสียงสมชาย ดังเบาจากข้างหลัง

"พี่ว่าไง?"

ป้าลำดวนสูดลมหายใจ หันมาสบตาเขา

"ฉันไม่เสียใจเลยที่ฝากอนาคตบริษัทไว้กับมือเด็กคนนั้น"

"สมชาย "พยักหน้า ดวงตาลึกซึ้ง

"ถ้า 'เปลว' ยังอยู่... เธอคงภูมิใจมากที่ได้เห็น 'หนูน้อย' เติบโตแบบนี้"

ป้าลำดวน บรรณาธิการยิ้มเศร้า

"แม้ต้องหนีขึ้นดอยตั้งแต่เกิดได้เจ็ดวัน ใช้ชีวิตอดมื้อกินมื้อกับพ่อแม่บุญธรรม... ฉันจะดูแลเขาให้ดีที่สุด"

สมชาย เงียบไปครู่ สายตาเหมือนซ่อนแผนการ

"อย่าให้เธอรู้... ว่าเรากำลังเดิมพันอนาคตของทุกคนไว้กับเธอคนเดียว"

More Chapters